Propolis (โพรโพลิส) หรือ กาวผึ้ง เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติจากรังผึ้งที่นำมาใช้ประโยชน์ในทางยาตั้งแต่โบราณในยุคกรีก โรมัน โดยมีบันทึกว่ามีการนำ (โพรโพลิส) ใช้บรรเทาอาการระคายคอ เจ็บคอ
จากรายงานการวิจัยที่ผ่านมาพบว่า (โพรโพลิส) มีส่วนประกอบของสารสำคัญต่างๆ มากกว่า 300 ชนิด โดยส่วนใหญ่เป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (ได้แก่ Galangin; กาแลนจิน, Caffeic acid phenethyl ester (CAPE);กรดคาเฟอิกฟีนิลเอสเทอร์) ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบ ลดอาการปวดและช่วยสมานแผล นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอื่นๆ เช่น เทอร์ปีน ฟีนอลิก เป็นต้น ซึ่งสารที่พบจะมีความแตกต่างหลากหลายไปตามแหล่งอาศัยของผึ้งและชนิดของพืชพันธุ์ในแถบนั้น
ประโยชน์ต่อสุขภาพของ Propolis (โพรโพลิส)
จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่า Propolis (โพรโพลิส) มีองค์ประกอบของสารเคมีที่แตกต่างกันหลายชนิด ส่งผลให้มีรายงานคุณสมบัติของโพรโพลิส ที่หลากหลาย ได้แก่ ฤทธิ์ต้านเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ทั้งยังต้านการอักเสบ ต้านอาการปวด และสมานแผล
อย่างไรก็ตาม มีการวิจัยมากมายที่ศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของโพรโพลิส ในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการบรรเทาอาการจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก ดังนี้
แก้เจ็บคอ บรรเทาอาการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
- อาการเจ็บหรือระคายเคืองในลำคอสร้างความรำคาญใจให้ใครหลายคน อีกทั้งมักตามมาด้วยอาการคอแห้ง ไอและเสียงแหบ ทำให้ไม่สามารถพูดคุยได้ตามปกติ ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว ได้แก่ การติดเชื้อไวรัส การติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโทคอกคัสหรือเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ การติดเชื้อราหรือบางครั้งก็อาจเกิดจากการเผชิญสารเคมีต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง สินค้า – Propolizspray
- มีงานวิจัยบางส่วนชี้ว่า น้ำผึ้งช่วยให้ทางเดินหายใจและลำคอชุ่มชื้น จึงช่วยบรรเทาอาการไอจากการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้ ซึ่งโพรโพลิส ก็อาจมีประโยชน์ในด้านนี้ไม่แพ้กัน เพราะเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการศึกษาพบว่า ผลิตภัณฑ์จากผึ้งอย่างโพรโพลิส มีสารสำคัญอย่างกาแลนจิน และกรดคาเฟอิกฟีนิลเอสเทอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยต้านจุลชีพและต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยบรรเทาอาการอักเสบและติดเชื้อได้ด้วย
- หลังจากนั้น มีงานค้นคว้าอีกชิ้นหนึ่งทดลองให้เด็กที่มีอาการคออักเสบเนื่องจากติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจส่วนบน ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (โพรโพลิส) เป็นเวลา 72 ชั่วโมง ปรากฏว่าอาการอักเสบของคอและหูชั้นกลางที่เกิดจากการติดเชื้อบรรเทาลง ทั้งยังลดความเสี่ยงต่อภาวะหลอดลมอักเสบและไซนัสอักเสบ มักเป็นผลมาจากการติดเชื้อบริเวณจมูกหรือคอได้ด้วย
- ในปี 2010 มีงานวิจัยในผู้ป่วยที่ติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบนจำนวน 250 คน ณ โรงพยาบาล Central Hospital มหาวิทยาลัย Benin เกี่ยวกับประสิทธิภาพของ (โพรโพลิส) ในการต้านเชื้อที่แยกจากลำคอของผู้ป่วย พบว่า (โพรโพลิส) มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่พบบ่อยในทางเดินหายใจส่วนบนและเป็นเชื้อที่แยกออกจากลำคอของผู้ป่วยได้จริง พร้อมทั้งมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อราในช่องปากซึ่งมักเป็นเชื้อฉวยโอกาสในช่องปากและลำคอ
- จากการศึกษาที่สอดคล้องกันดังข้างต้น (โพรโพลิส) จึงเป็นอีกทางเลือกจากธรรมชาติในการบรรเทาอาการติดเชื้อในทางเดินหายใจที่ปลอดภัยและได้ผลอีกทั้งหากเป็นการติดเชื้อจากแบคทีเรียก็จะไม่ทำให้เกิดการดื้อยาเหมือนการใช้ยาปฏิชีวนะ
- บำรุงสุขภาพช่องปาก สุขภาพปากและฟันที่ดีไม่เพียงช่วยเพิ่มความมั่นใจเมื่อยิ้มหรือพูดคุย แต่ยังสามารถป้องกันการเกิดปัญหาภายในช่องปากเมื่อมีอายุมากขึ้นด้วย ซึ่งตัวการสำคัญของปัญหาดังกล่าว คือ แบคทีเรีย ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากในช่องปาก หากไม่ดูแลรักษาความสะอาด แบคทีเรียเหล่านั้นอาจเพิ่มจำนวนมากขึ้นจนเกิดคราบหินปูนสะสม มีกลิ่นปาก และนำไปสู่โรคเหงือกได้ ด้วยคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ (โพรโพลิส) เป็นอีกทางเลือกที่มีประสิทธิภาพลดการสะสมของคราบสิ่งสกปรกที่เกิดจากการรวมตัวกันของเชื้อแบคทีเรียภายในช่องปาก ทั้งนี้ มีผลการศึกษาหลายชิ้นที่ชี้ให้เห็นหลากคุณประโยชน์ของโพรโพลิส ต่อสุขภาพปากและฟัน
- งานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า การกลั้วน้ำยาบ้วนปากชนิดไร้แอลกอฮอล์ที่มีส่วนผสมของโพรพอลิส 5 เปอร์เซ็นต์ ในปริมาณ 10 มิลลิลิตร เป็นเวลา 1 นาที ทันทีหลังจากแปรงฟันในตอนเช้าและก่อนนอน โดยใช้ติดต่อกัน 45 หรือ 90 วัน พบว่า (โพรโพลิส) ช่วยควบคุมการเกิดคราบจุลินทรีย์และโรคเหงือกได้อย่างมีนัยสำคัญถึง 24 เปอร์เซ็นต์และ 40 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ทั้งยังไม่ส่งผลข้างเคียงต่อเนื้อเยื่อและเยื่อบุในช่องปากของผู้เข้าร่วมทดลอง รวมถึงไม่กระทบต่อจุลินทรีย์ทั่วไปที่ไม่ได้เป็นสาเหตุของการเกิดโรคเหงือกและฟัน
- นอกจากน้ำยาบ้วนปาก ยังมีการประยุกต์ใช้ (โพรโพลิส) ในรูปแบบอื่น ๆอีกมากมายที่พบว่าให้ผลดีต่อสุขภาพช่องปากเช่นกัน โดยการศึกษาชิ้นหนึ่งเผยว่ายาสีฟันที่มีส่วนผสมของ โพรโพลิส 3 เปอร์เซ็นต์ช่วยลดการสะสมของคราบจุลินทรีย์ได้เช่นเดียวกัน และยังทำให้สุขภาพเหงือกโดยรอบดีขึ้น ส่วน (โพรโพลิส) ในรูปแบบสารละลายนั้น อาจช่วยฆ่าเชื้อที่สะสมอยู่ตามแปรงสีฟันและยังช่วยให้แผลผ่าตัดในช่องปากฟื้นตัวได้เร็วกว่าปกติด้วย
ประโยชน์ด้านอื่น ๆ
- Propolis (โพรโพลิส) เป็นผลิตภัณฑ์จากผึ้งที่นักวิจัยค่อนข้างให้ความสนใจ เพราะนอกจากสรรพคุณบรรเทาอาการเจ็บคอจากการติดเชื้อหรือการอักเสบ บำรุงสุขภาพช่องปากและลำคอแล้ว ยังมีการศึกษาถึงประโยชน์ของสารชนิดนี้ในหลายๆ ด้าน
- อาจเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยในการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัดสำหรับผู้ป่วยที่มีหูดจากการติดเชื้อไวรัส ส่วนสรรพคุณต้านการอักเสบก็อาจช่วยเร่งการสมานตัวของแผลได้ เช่น แผลเบาหวานที่เท้า แผลจากโรคเริมที่อวัยวะเพศ เป็นต้น และอาจช่วยลดความเจ็บปวดจากการอักเสบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไปในตัวด้วย
- อย่างไรก็ตาม Propolis (โพรโพลิส) ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป ดังนั้น หากต้องการใช้ผลิตภัณฑ์โพรโพลิส เพื่อหวังสรรพคุณทางการรักษาโรคด้วยตนเอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งเกี่ยวกับวิธีการใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม
Propolis (โพรโพลิส) ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย ?
- โดยทั่วไป น้ำผึ้งที่เรารับประทานกันจะมี (โพรโพลิส) เจือปนอยู่แล้วพร้อมทั้ง (โพรโพลิส) มีประวัติการใช้มาตั้งแต่โบราณ ดังนั้นการรับประทานหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ โพรโพลิส
ภายในช่องปากจึงค่อนข้างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม บุคคลในกลุ่มต่อไปนี้อาจต้องระมัดระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นพิเศษและปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เพื่อรักษาหรือบรรเทาอาการเจ็บป่วยใด ๆ เสมอ
ข้อพึงระวัง
- ผู้ที่แพ้น้ำผึ้งหรือแพ้ผึ้ง เพราะอาจมีโอกาสแพ้ (โพรโพลิส) ได้เช่นเดียวกันโดยอาจสังเกตอาการแพ้ได้จากการมีผื่นแดงขึ้นตามผิวหนัง หากผู้ที่แพ้เป็นโรคหืดอย่างรุนแรงรวมด้วย อาจมีอาการแย่ลงหลังจากได้รับสารนี้เช่นกัน
- หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่ให้การดูแลก่อนใช้ผลิตภัณฑ์เนื่องจากภาวะของหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรในแต่ละคนมีความแตกต่างกัน
การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Propolis (โพรโพลิส)
- ในปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ (โพรโพลิส) จัดจำหน่ายเป็นจำนวนมากตามร้านขายยาและร้านค้าทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเมาท์สเปรย์สำหรับช่องปากและลำคอ ยาอม น้ำยาบ้วนปาก ชนิดรับประทานในรูปแบบเม็ด แคปซูล สารละลายหรือ รูปแบบทาภายนอกเช่นครีม ขี้ผึ้งหรือโลชั่น
ดังนั้นควรพิจารณาถึงข้อควรระวังในการเลือกซื้อและการใช้ ดังนี้
- ควรเลือกผลิตภัณฑ์ (โพรโพลิส) ที่ผ่านการรับรองว่ามีประสิทธิภาพและคุณภาพ เช่น เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานการควบคุมสารสำคัญออกฤทธิ์ อย่างมาตรฐานสแตนดาร์ดไดซ์โพรโพลิส (Standardized Propolis Extract) ซึ่งเทียบเท่ากับการควบคุมคุณภาพของยาระดับสากล
- ควรเลือกผลิตภัณฑ์ (โพรโพลิส) ที่ผ่านการรับรองว่ามีความปลอดภัย เช่น เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการตรวจสอบว่าปราศจากโลหะหนัก ยาฆ่าแมลงและเชื้อปนเปื้อน ที่มักพบในสารสกัดจากธรรมชาติ
- อ่านฉลากคำเตือนและวิธีใช้ให้ละเอียด โดยปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเสมอ
- หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ (โพรโพลิส) ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์
- หากพบอาการแพ้ที่มีลักษณะเป็นผื่นแดง คันตามร่างกาย ปากบวม ตาบวมหรือหายใจไม่ออก ควรพบแพทย์ทันที
ซึ่งอาการเจ็บคอมีสาเหตุหลักอยู่ 2 ประเภท ดังนี้
- การติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเจ็บคอที่พบได้บ่อยที่สุด โดยพบได้บ่อยทั้งจากเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคหวัด โรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งมักจะมีอาการเจ็บคอโดยเฉพาะเวลากลืน คอแดงเล็กน้อย ไม่มีจุดขาวที่ทอนซิล มีเสมหะ น้ำมูกใสไม่มีสีเขียว-เหลือง ส่วนใหญ่มักมีอาการหวัดมาก่อนแล้วจึงเจ็บคอภายหลัง ส่วนเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคต่อมทอนซิลอักเสบ โรคไซนัสอักเสบ โรคคออักเสบจากการติดเชื้อ มักเกิดกับผู้ที่มีอาการเจ็บคอต่อเนื่องหลายวัน คอแดงจัด มีจุดขาวที่ทอนซิล มีไข้ มีเสมหะหรือน้ำมูกสีเขียว-เหลือง กลืนลำบาก เสียงพูดเปลี่ยนไป
- การอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ เช่น โรคกรดไหลย้อนขึ้นมาที่คอและกล่องเสียง โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ การใช้เสียงมาก การสัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น ควัน ฝุ่น อากาศแห้ง สารเคมี หรือการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิดที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น อาหารรสจัด ของทอด ของมัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์